ลองของภาคสนาม

บทลองของ ภาคสนาม
 คุณพ่อได้พาลูกทั้งสอง ไปเที่ยว กรุงเทพเนื่องจากโรงเรียน  ปิดเทอม คุณพ่อได้พาไปเที่ยวกรุงเทพมหานคร ฯ ที่สนามหลวงแถววัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ บริเวณที่มีแฝงพระตั้งขายตามฟุตบาตร เด็กชายทั้งสองคนเก็บพระสมเด็จที่มีพลานุภาพแรงๆ ตามพระกอง ขายเหมา ที่คนไม่มีตาที่ สาม  ก็จะ ไม่ทราบ กอง ประมาณ  200 – 300 องค์ จะพบพระแท้ หลุด ออกมาประมาณ 2-3 องค์ และได้ เสือหลวงพ่อนก วัดสังกะสี ตอนนั้นยังไม่มีชื่อ เช่นปัจจุบัน  แต่เด็กทั้งสองเก็บหมด  คุณพ่อถามเพราะอะไร ? เด็กทั้งสองตอบว่าข้างในเสือตัวใหญ่มาก แข็งแรงเป็นที่เกรงขาม ตัวโตเท่าตึก  ในตาที่ สาม  เอามาไว้ เฝ้าตอนทำสมาธิ  และเวลาไปที่ไหนสรรพเวสีจะไม่เข้าใกล้
 เวลาว่างน้องไกด์มักจะจุดเทียน จะมีเทพฯพาไปเทียวในที่ต่างๆ  ส่วนเก่งนั้นจะใช้ความรู้สึกคือตาที่สามสัมผัสสิ่งที่อยู่ใต้ดินได้  จุดประกายที่ทำให้ ทั้งสองเห็นว่าสิ่งลี้ลับนั้นยังมีอยู่   กลับมาบ้านคุณพ่อมักเอาพระเครื่องให้ ไกด์ เก่งออกมาเช็ควัดพลังมาให้  ทำให้ทั้งสองวัดพลังพระได้ ตั้งแต่นั้นมา  ให้ เปิดตาที่สาม เล่นกับน้อง พี่เก่งอยู่ในบ้านถามน้องว่าเห็นอะไรบ้าง  และถามใบบ้านว่าพี่เก่งทำอะไรบ้าง ? คำตอบตรงกันหมด ทั้งที่ต่างคนต่างไม่เห็น มีกำแพงห้องกั้นอยู่  
                                                     
บททดสอบจากพ่อ

      อาจารย์ อรรคเดช ต้องการทดสอบลูกชายสองคนว่าเขาทั้งสองได้พัฒนาจิตสมาธิไปถึงไหน จึงได้ทำการสอบจิต ถึง3 ครั้ง                                                                                        
      ครั้งที่ 1 ได้นำพระคงแท้มาให้ เก่ง/ไกด์ เช็ค 3 องค์ แท้มีพลังระดับ วี ไอ พี  ทดสอบสอง-สาม ครั้ง คำตอบคือตรงกัน
               ครั้งที่ 2 ได้ นำพระคงเก๊ จากตลาดมาปะปนประมาณ 10 องค์ปรากฏว่า เขายังแยกออกยังแยกออกได้ถูกต้องเหมือนเดิม
               ครั้งที่ 3 คุณพ่อได้ นำปูนปาสเตอร์ ทาบนผิวพระคงทุกองค์ทั้งพระเก๊ พระแท้ ทั้งหมด 10 องค์เหมือนเดิม เพื่อไม่ให้เขาทั้งสองจำพระได้ ผลปรากฏว่า เหมือนเดิมมีพระแท้ 3 องค์ ที่มีพลัง เมื่อนำไปล้างปูนออก ผลปรากฏตรงจริง  วิจารณ์ ในแง่วิทยาศาสตร์ และความเป็นจริง เขาแยกได้อย่างไร ?แยกได้แม่นยำ  นี่ แหละที่เรียกว่าพรสรรค์ ที่ ได้ มา จากกำเนิดบวกกับการฝึกที่ดี โดยมีพ่อนำทางให้ พบความสำเร็จ

พระคงแท้ที่นำมาทดสอบ(เป็นพระคงที่คุณทวดของคุณเก่งเป็นพระคงกรุวัดพระคง)